Flapping Purple Butterfly

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนการสอนครั้งที่ 13

วันศุกร์ที่ 28 เมษายน 2559(ชดเชย)

 เวลา 08:30-12:30 น.


เนื้อหาที่เรียน 
        อาจารย์สอนเกี่ยวกับการเขียนแผนการจัดประสบการณ์คณิตศาตร์สำหรับเด็กปฐมวัย พร้อมยกตัวอย่างและก็เอกสารประกอบการเรียน แจกให้ทุกกลุ่ม เพื่อเป็นตัวอย่างอาจารย์ก็อธิบายและมีการสนทนาพูดคุยกับนักศึกษา ช่วงสุดท้ายก็มีตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอนิทานที่ทำมา

ทักษะ
-  การตอบปัญหา
- ภาษา เช่น ฟัง พูด อ่าน เขียน 

การประเมินผล
บรยากาสในห้องเรียน
-บรรยากาศสนุกสนานบรรยากาศดีเอื้อต่อการเรียน

การจัดการเรียนการสอน
-อาจารย์ให้รายละเอียดการทำแผนอย่างชัดเจนและจี้ทุกจุดเพื่อให้ได้ทุกคน

วิเคราะห์ตนเอง
-ตั้งใจเรียนแต่ง่วงมาก

บันทึกการเรียนการสอนครั้งที่ 12

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2559

 เวลา 08:30-12:30 น.


*หมายเหตุ::  ขาดเรียน

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนการสอนครั้งที่ 11

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2559

 เวลา 08:30-12:30 น.


ภาพกิจกรรมในวันนี้





เนื้อหาที่เรียน 
         ให้นักศึกษาออกมาสอนตามแผนที่กำหนดจากอาทิตย์ก่อน มีดังนี้ หน่วยผัก  หน่วยผีเสื้อ   หน่วยผลไม้  หน่วยพาหนะ หน่วยตัวฉัน

ทักษะ
-  เทคนิคการสอนคณิตศาสตร์คือ การบวก-ลบ ป้ายทะเบียนรถ การไปซุปเปอร์มาเก็ต  ให้เด็กดูป้ายราคา สินค้าชนิดไหนแพงกว่าหรือถูกกว่ากัน จะต้องสอนสิ่งที่อยู่รอบตัวเด็ก
- ทักษะการสอน  ของครุวันทะนีย์ กะตะศิลา โรงเรียนวัดน้ำดิบ จังหวัดลำพูน จากโทรทัศน์ครู 
1.การสร้างแรงจูงใจ
2.ครูจะทบทวนความรู้ 
3.เสริมความรู้ใหม่โดยกระบวนการกลุ่ม 
4.การนำความรู้ไปใช้ 


การประเมินผล
บรยากาสในห้องเรียน
-บรรยากาศสนุกสนานเพราะเป็นการสอนแผนครั้งแรกของคณิตศาสตร์ ทำให้ตื่นเต้นเป็นพิเศษ

การจัดการเรียนการสอน
-อาจารย์คอยเสนอแนะติชม เพิ่มเติม แผนการสอนทุกๆกลุ่มอย่างละเอียด

วิเคราะห์ตนเอง
-มีความตั้งใจในการทำสื่อ แต่ก็ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร แต่จะนำไปปรับปรุงตามคำแนะนำที่อาจารย์ได้แนะนำไว้

 

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนการสอนครั้งที่ 10

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม 2559

 เวลา 08:30-12:30 น.

เนื้อหาที่เรียน
      วันนี้อาจารย์ให้ส่งมายแม็ปปิ้ง และแนะนำวิธีการทำแผนการสอนแต่ละหัวข้อในแต่ละวัน  ซึ่งจะต้องมีการประยุกต์ให้มีคณิตศาสตร์เข้ามาด้วย
สาระที่ 1 จำนวนและการดำเนินการ
สาระที่ 2 การวัด
สาระที่ 3  เรขาคณิต
สาระที่ 4 พีชคณิต
สาระที่ 5 การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น
สาระที่ 6 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์

การเรียนในวันนี้ความรู้ที่ได้รับ ได้รับความรู้เป็นขั้นตอนและแต่ละกลุ่ม

ทักษะที่ได้จากการเรียนวันนี้
  การระดมความคิด การคิดรวบยอด

การนำไปประยุกต์ใช้
-แผนที่ทำต้องนำมาใช้จริงได้
-การทำแผนต้องดูพัฒนาการของเด็กด้วย

บรรยากาศในห้องเรียน
อากาศดีเรียนตึกใหม่

การจัดการเรียนการสอน
อาจารย์ให้คำแนะนำทุกคนทุกขั้นตอน
วิเคราะห์ตนเอง
ยังทำไม่ดีเท่าที่ควร

บันทึกการเรียนการสอนครั้งที่ 9

วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม 2559

 เวลา 08:30-12:30 น.


เนื้อหาที่เรียน
      ให้จับกลุ่มกัน  4  คน กลุ่มดิฉันทำเรื่อง  ตัวฉัน   ให้ทำมายแม๊ปปิ้ง
-ชื่อ/อายุ  
-ลักษณะ 
-สถานที่
-ประโยชน์ของฉัน
-ข้อควรระวั


การเรียนในวันนี้ความรู้ที่ได้รับ ไม่ว่าจะสอนเรื่องอะไร เราสามารถนำมาประยุกต์เป็นคณิตได้ทั้งนั้น

ทักษะที่ได้จากการเรียนวันนี้
- คิด วิเคราะห์ วางแผน ลงมือทำ

การนำไปประยุกต์ใช้
-ใช้แผนในการสอนจริงได้

บรรยากาศในห้องเรียน
อากาศร้อน

การจัดการเรียนการสอน
อาจารย์เตรียมงานและการสอนมาให้ตลอดมีการเตรียมควมพร้อมมาก่อน ทำให้การเรียนน่าเรียน
วิเคราะห์ตนเอง
อากาศร้อนไม่ค่อยมีสมาธิ

บันทึกการเรียนการสอนครั้งที่ 8

วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม 2559

 เวลา 08:30-12:30 น.


กิจกรรมในวันนี้





เนื้อหาที่เรียน
      ทำจิ๊กซอ

อุปกรณ์การทำ
       1.ตัวแบบ
       2.กระดาษกะลัง
       3.ดินสอ
       4.ไม้บรรทัด
       5.คัตเตอ

การเรียนในวันนี้ความรู้ที่ได้รับ การคิดวิเคราะห์ รูปร่าง รูปทรง

ทักษะที่ได้จากการเรียนวันนี้
- อุปกรณ์ คิดวิเคราะห์ วางแผน ลงมือทำ

การนำไปประยุกต์ใช้
-นำวัสดุที่มีอยู่ใช้ให้คุ้มและคงทน
-สื่อเราสามารถทำเองได้ไม่ต้องซื้อ

บรรยากาศในห้องเรียน
บรรยากาศน่าเรียนเพื่อนๆตั้งใจทำงาน

การจัดการเรียนการสอน
ฝึกให้ได้ลงมือทำอย่างอิสระบนแบบแผนที่กำหนด ไม่กดดัน ได้ใช้ความคิด ลงมือทำ
วิเคราะห์ตนเอง
ตั้งใจทำสื่อ พยายามหาวิธีทำที่ทำให้ได้ออกมาดีที่สุด

บันทึกการเรียนการสอนครั้งที่ 7

วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2559

 เวลา 08:30-12:30 น.



กิจกรรมในวันนี้


เนื้อหาที่เรียน
      อาจารย์ให้ทำสื่อที่สามารถใช้ได้หลายๆกิจกรรม โดยมีกระดาษให้และให้จับคู่กันทำ


การเรียนในวันนี้ความรู้ที่ได้รับ ในการทำวัสดุอุปกรณ์หรือสื่อการสอนนั้นต้องทำให้มีความคงทน แข็งแรง สามารถนำไปใช้ได้จริงและหลายครั้ง

ทักษะที่ได้จากการเรียนวันนี้
- อุปกรณ์ คิดวิเคราะห์ วางแผน ลงมือทำ

การนำไปประยุกต์ใช้
-นำวัสดุที่มีอยู่ใช้ให้คุ้มและคงทน
-สื่อเราสามารถทำเองได้ไม่ต้องซื้อ

บรรยากาศในห้องเรียน
บรรยากาศน่าเรียนมีอุปกรณ์ในการทำสื่อครบ

การจัดการเรียนการสอน
ฝึกให้ได้ลงมือทำอย่างอิสระบนแบบแผนที่กำหนด ไม่กดดัน ได้ใช้ความคิด ลงมือทำ
วิเคราะห์ตนเอง
ตั้งใจทำสื่อ พยายามหาวิธีทำที่ทำให้ได้ออกมาดีที่สุด

วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559


บันทึกการเรียนการสอนครั้งที่ 6

วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2559

 เวลา 08:30-12:30 น.


กิจกรรมในวันนี้

อุปกรณ์ แท่งไม้ 3 ขนาด

 ทำเป็นรูปสามเหลี่ยม

 ทำเป็นรูปสี่เหลี่ยม


ทำเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมเเละสี่เหลี่ยม

เนื้อหาที่เรียน
      อาจารย์ให้นักศึกษาตัดไม้มา 3 ขนาด สั้นกลางยาว และแจกดินน้ำมัน 2 คนต่อก้อน และให้ ทำเป็นรูปสาม เหลี่ยมสี่เหลี่ยม ตามที่อาจารย์กำหนด ตามความคิดของนักศึกษาจะทำรูปแบบใดก็ได้ ให้ทำอย่างอิสระ


การเรียนในวันนี้ความรู้ที่ได้รับ เด็กในวัยอนุบาลยังไม่รู้เรื่องรูปทรง การสอนแบบประสบการณ์ เช่น จัดหมวดหมู่ การตั้งโจทย์ให้เด็กด้หาสิ่งของ จิ๊กซอ โดมิโน รายละเอียดของภาพ พื้นฐานการบวกเป็นต้น


ทักษะที่ได้จากการเรียนวันนี้
- วิเคาระห์โจทย์ แนวคิด-->ศึกษาวัสดุที่มีอยู่-->ลงมือทำ-->ผลงาน-->นำเสนอ

การนำไปประยุกต์ใช้
-เปิดอิสระให้เด็กได้คิดได้ทำ
-จัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับการเรียนรู้
-เปิดโอกาสให้เด็กได้แก้ปัญหา ลองผิดลองถูก

บรรยากาศในห้องเรียน
วันนี้อากายู่ศแจ่มใสน่าเรียนไม่ร้อนมาก เรียนรวมกันสองห้อง ในการทำกิจกรรมต่างคนต่างความคิด สอดคล้องกับความรู้เดิมของแต่ละคนที่มีอยู่ เพื่อนๆส่วนมากวันนี้มาสายกัน

การจัดการเรียนการสอน
กิจกรรมการเรียนการสอนของอาจารย์ฝึกให้ได้คิดได้วิเคราะห์ สื่อให้เห็นความรู้เดิมของแต่ละคนเปิดโอกาศให้ด้คิดและลงมือทำอย่างอิสระ

วิเคราะห์ตนเอง
วันนี้ตั้งใจเรียนและมาไม่สาย เข้าใจและวิเคราะห์ได้

วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนการสอนครั้งที่ 5

วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559

 เวลา 08:30-12:30 น.


เนื้อหาที่เรียน



              อาจารย์แจกกระดาษให้คนละแผ่น แล้วให้ทำเป็นตาราง 2 ตาราง ดังรูป และแรเงารูปในช่องตารางซึ่งเป็นรูปทรงอะไรอะได้ให้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งอยู่ในสาระที่ 3
    วิดิโอ ตัวอย่างการสอนแบบ Project Approach ให้ดู มี 5 ลักษณะสำคัญคือ
ลักษณะที่ 1 การอภิปราย การนำเสนอข้อมูล สาระที่ 5
ลักษณะที่ 2 การนำเสนอประสบการณ์เดิม ขั้นตอนที่เป็นสำคัญ อะไรก่อนหลัง
ลักษณะที่ 3 การทำงานภาคสนาม
ลักษณะที่ 4 การสืบค้น
ลักษณะที่ 5 การจัดแสดง


 การเรียนในวันนี้ความรู้ที่ได้รับ
 -การเรียนรู้ คือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
 -วิธีการเรียนรู้ คือ การลงมือกระทำ
 -พัฒนาการ คือ ความสามารถของเด็กแต่ละระดับช่วงอายุว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง
 -เมื่อไหร่เด็กมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม คือเด็กเกิดการเรียนรู้
 -เด็กต้องมีอิสระในการเรียนรู้
 -การทำสื่อเพื่อตอบสนองการเรียนรู้
 -เป็นการจัดการเรียนการสอนเพื่อที่จะสืบเสาะ

ทักษะที่ได้จากการเรียนวันนี้
-การคิดวิเคราะห์ความน่าจะเป็น
-การแก้ไขปัญหา
-การคิด คำนวณ เรียนรู้รูปทรง

การนำไปประยุกต์ใช้
-   การสอนคณิตศาสตร์โดยใช้สื่อการสอนสำหรับเด็กโดยนิทานได้ เช่น ชื่อเรื่อง เต่าน้อยหัดวาดรูป
- จัดประสบการณ์ให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5
- สอนแบบ Project Approach 


บรรยากาศในห้องเรียน



          บรรยากาศในห้องวันนี้คึกคัก เพื่อนๆตั้งใจเรียน อาจารย์เตรียมการสอนวางแผนมาดี ทำให้บรรยากาศในห้องเรียนน่าเรียน อากาศเเจ่มใส ฝนไม่ตก


การจัดการเรียนการสอน
-อาจารย์สอนตรงเวลา และมีการเช็คชื่อตลอด และมีการเตรียมการสอนมา พร้อมตัวอย่างประกอบ ทั้งวีดีโอ  และสื่อต่างๆ

วิเคราะห์ตนเอง
-วันนี้มาเรียนสาย 10 นาที เกือบเช็คชื่อไม่ทัน มาถึงเพื่อนเก็บกระดาษไว้ให้พร้อมบอกให้ทำตาราง ทีแรกงงนิดๆ ว่าอาจารย์ให้ทำอะไร จึงได้ตารางแค่ดังรูปทั้งที่เพื่อนแต่ละคน ได้หลายรูปกัน

วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนการสอนครั้งที่ 4

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559

 เวลา 08:30-12:30 น.



เนื้อหาที่เรียน


สอนเรื่องการทำสื่อ สื่อต้องมีความทน และใช้ได้จริง
เพลง

เพลงนกกระจิบ
นั่นนกบินมาลิบๆ                    นกกระจิบ 1,2,3,4,5
อีกฝูงบินล่องลอยมา              6,7,8,9,10ตัว


เพลงจับปู
หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า จับปูม้ามาได้หนึ่งตัว
หก เจ็ด แปด เก้า สิบ ปูมันหนีฉันต้องสั่นหัว
กลัว ฉันกลัว ฉันกลัว ปูหนีบที่หัวแม่มือ


เพลงนับนิ้วมือ
นี่คือนิ้วมือของฉัน มือฉันนั้นมีสิบนิ้ว
มือซ้ายฉันมีห้านิ้ว มือขวาก็มีห้านิ้ว
นับ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า นับต่อมา หก เจ็ด แปด เก้า สิบ
นับนิ้วนั้นจงอย่ารีบ นับหนึ่งถึงสิบจำให้ขึ้นใจ

เพลงบวก-ลบ บ้านฉันมีแก้วน้ำสี่ใบ ครูให้อีกสามใบนะเธอ มารวมกันนับดีดีซิเออ ดูซิเธอรวมกันได้เจ็ดใบ บ้านฉันมีแก้วน้ำเจ็ดใบ หายไปสามใบนะเธอ ฉันหาแก้วแล้วไม่เจอ ดูซิเออเหลือเพียงสี่ใบ

เพลงแม่ไก่ออกไข่ แม่ไก่ออกไข่วันละฟอง ไข่วันละฟอง แม่ไก่ของฉันไข่ทุกวัน หนึ่งวันได้ไข่หนึ่งฟอง (นับต่อไปเรื่อยๆ) แม่ไก่ของฉันไข่ทุกวัน สิบวันได้ไข่สิบฟอง

เพลงลูกแมวสิบตัว ลูกแมวสิบตัวที่ฉันเลี้ยงไว้ น้องขอให้แบ่งไปหนึ่งตัว ลูกแมวสิบตัวก็เหลือน้อยลง นับดูใหม่เหลือลูกแมวเก้าตัว (ลดจำนวนลงไปตามลำดับจนกระทั่งเหลือหนึ่งตัว) ลูกแมวหนึ่งตัวก็เหลือน้อยลง น้องขอให้แบ่งไปหนึ่งตัว ลูกแมวหนึ่งตัวก็เหลือน้อยลง นับดูใหม่ไม่เหลือลูกแมวสักตัว

แปลงเพลง จากเพลงบวก-ลบ

การเรียนในวันนี้ความรู้ที่ได้รับ
  ขึ้นบทเรียนด้วยคำถามว่า ป้ายชื่อนอกจากจัดวัน การตื่นนอน และทำอะไรได้อีก
-การที่จะทำสื่อจะต้องทำให้ทนทาน ช้ได้จริง
-อาจารย์มีตัวเลขให้ทาย และให้เดาว่าตัวเลขเหล่านี้เกี่ยวข้องอะไรกับอาจารย์ ทำให้ได้รู้ว่าตัวเลขเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเรา
-การทำวิจัยจะต้องหานวัตกรรมของเรา


ทักษะที่ได้จากการเรียนวันนี้ -แนวคิด สังกัป คอนเซ็บ
-นับเพื่อแบ่งกลุ่ม
-การแปลงเพลง

การนำไปประยุกต์ใช้ -การทำปฏิทินเดือนเกิด
-การแปลงเพลงให้เข้ากับเนื้อหาที่เรียน
-การปั้นดินน้ำมันจากการปั้นกระดาษ
-
บรรยากาศในห้องเรียน

-อากาศแจ่มใสแอร์หนาวนิดๆ เพื่อนๆตั้งใจเรียน หาของเล่นมานำเสนอได้ดีมาก เหมาะกับการนำไปประยุกต์ใช้ และช่วยกันตอบคำถาม



การจัดการเรียนการสอน
-วันนี้อาจารย์นำเพลงมาสอนโดยแฝงด้วยการคิดคณิตศาสตร์อาจารย์ได้สอนวิธีการร้องเพลงและได้ให้แปลงเพลง และอาจารย์นำสื่อที่นักศึกษาได้ทำมาให้เป็นตัวอย่าง ว่าสื่อที่ไม่ทนไม่สามารถนำไปสอนได้ และอาจารย์แทรกตัวอย่างตลอดการสอน

วิเคราะห์ตนเอง

-ตื่นเช้าง่วงนิดหน่อย แต่ก็ตั้งใจเรียนแปลงเพลงได้

วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

*ชดเชย (วันศุกร์ ที่ 22 มกราคม 2559)

วันพุธ ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559

 เวลา 14:30-17:30 น.


เนื้อหาที่เรียน

สาระที่ 1 จำนวนและการดำเนินการ
          มาตรฐาน ค.ป. 1.1 เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจำนวนและการใช้จำนวนในชีวิตจริง
               จำนวน
-การใช้จำนวนบอก ปริมาณที่ได้จากการนับ
-การอ่านตัวเลขฮินดูอารบิกและตัวเลขไทย
-การเขียนตัวเลขฮินดูอารบิกแสดงจำนวน
-การเปรียบเทียบจำนวน
-การเรียงลำดับจำนวน
              การรวมและการแยกกลุ่ม
-ความหมายของการรวม
-การรวมสิ่งต่างๆของกลุ่มที่มีผลรวมไม่เกิน 10
-ความหมายของการแยก
-การแยกกลุ่มย่อยออกจากกลุ่มใหญ่ที่มีจำนวนไม่เกิน 10
สาระที่ 2 การวัด
         มาตรฐาน ค.ป. 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัดความยาว น้ำหนัก ปริมาตร เงิน และเวลา
               ความยาว น้ำหนัก และ ปริมาตร
-การเปรียบเทียบ/การวัด/การเรียงลำดับความยาว
-การเปรียบเทียบ/การชั่ง/การเรียงลำดับน้ำหนัก
-การเปรียบเทียบปริมาตร/การตวง
                เงิน
-ชนิดและค่าของเงิน เหรียญและธนบัตร
                เวลา
-ช่วงเวลาในแต่ละวัน
-ชื่อวันในสัปดาห์และ คำที่ใช้บอกเกี่ยวกับวัน
สาระที่ 3 เรขาคณิต
        มาตรฐาน ค.ป. 3.1 รู้จักใช้คำในการบอกตำแหน่ง ทิศทาง และระยะทาง
        มาตรฐาน ต.ป. 3.2 รู้จักจำแนกรูปเรขาคณิต และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงรูปเรขาคณิตที่เกิดจากการจัดกระทำ
รูปเรขาคณิตสามมิติ และรูปเรขาคณิตสองมิติ
-ทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก กรวย ทรงกระบอก
-รูปวงกลม รูปสามเหล่ยม รูปสี่เหลี่ยม
-การเปลี่ยนแปลง รูปเรขาคณิตสองมิติ
-การสร้างสรรค์งานศิลปะจากรูปเรขาคณิตสามมิติและสองมิติ
สาระที่ 4 พีชคณิต
        มาตรฐาน ค.ป. 4.1 เข้าใจแบบรูปและความสัมพันธ์
แบบรูปและความสัมพันธ์
-แบบรูปของรูปที่มี รูปร่าง ขนาด หรือสี ที่สัมพันธ์กันอย่างใดอย่างหนึ่ง
สาระที่ 5 การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น
        มาตรฐาน ค.ป. 5.1 รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับตนเองและสิ่งแวดล้อม และนำเสนอ
สาระที่ 6 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
        การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์และการนำเสนอการเชื่อมโยงความรู้ต่างๆ ทางคณิตศาสตร์และเชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่นๆและมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

การเรียนในวันนี้ความรู้ที่ได้รับ
-การสอนเด็กต้องคำนึงถึงพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงตามลำดับขั้นตอนอย่างต่อเนื่ง
-ให้เด็กลงมือทำเองได้ประสบการณ์เกิดการเรียนรู้
-เครื่องมือที่อยู่กับเด็กคือ ประสาทสัมผัสที่ทั้ง 5 เป็นวิธีการเรียนรู้
-การเปรียบเทียบจำนวนต้องรู้จำนวน
-การรวมและการแยกกลุ่มเป็นพื้นฐานของการบวกและการลบ
-การวัดคือการหาค่าและปริมาณ ต้องใช้เครื่องมือในการวัด
-ค่าที่ได้จากการนับการตวง การชั่ง คือการนับจำนวน
-ใช้ประสบการณ์คณิตศาสตร์ผ่านศิลปะการสร้างสรรค์

ทักษะที่ได้จากการเรียนวันนี้
          อาจารย์ให้นำชื่อไปติดบนตารางที่อาจารย์ขีดไว้มี 3 ช่องคือ เวลาตื่นนอนก่อน 7.00 น., 7.00 น.และหลัง 7.00 น.
-เรียงเวลาก่อนและหลัง
-การแบ่งกลุ่ม
-นับจำนวนเลขกำกับ
-ทักษะการคิด การนับ
-การรวม
-การเปรียบเทียมมากกว่าน้อยกว่า

การนำไปประยุกต์ใช้
-การบอกจำนวนด้วย เกม การเล่านิทาน การร้องเพลง
-ให้ประสบการณ์เด็กในเด็กที่ยังไม่รู้ตัวเลขเช่น เลข 1 เหมือนเสาธง
-การเปรียบเทียบจำนวน เช่น การหยิบกระดาษแบบ 1:1
-ให้เด็กปฏิบัติเพื่อให้เด็กได้ทักษะ
-การวัดให้เด็กใช้เครื่องมือที่อยู่กับตัว เช่น มือ แขข นิ้ว

บรรยากาศในห้องเรียน
-อากาศหนาวเย็น มีไฟดับด้วย สนุกสนาน กับการเรียน ไม่น่าเบื่อ เพื่อนๆช่วยกันตอบคำถาม

การจัดการเรียนการสอน
-วันนี้อาจารย์สอนด้วยแบบจัดประสบการณ์คือให้นักศึกษาได้ลงมือทำและอธิบายให้เข้าใจว่าที่ทำไปได้อะไรบ้าง

วิเคราะห์ตนเอง
-ตั้งใจเรียน และเข้าใจในเนื้อหา

วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนการสอนครั้งที่ 3

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2559

 เวลา 08:30-12:30 น.


เนื้อหาที่เรียน
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
-สาระที่ 1 จำนวนและการดำเนินการ
-สาระที่ 2 การวัด
-สาระที่ 3 เรขาคณิต
-สาระที่ 4พีชคณิต
-สาระที่ 5 การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น
-สาระที่ 6 ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
คุณภาพของเด็กเมื่อจบการศึกษาปฐมวัย
1.มีความคิดเชิงคณิตศาสตร์
2.มีความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับความยาว น้ำหนัก ปริมาตร เงิน และเวลา
3.มีความรู้ความเข้าใจพื้นฐานทางเรขาคณิต
4.มีความรู้ความเข้าใจและแบบรูุปของรูปที่มีรูปร่าง ขนาด สีที่สัมพันธ์อย่างใดอย่างหนึ่ง
5.มีส่วนร่วมในการให้ขอมูลและนำเสนอ ข้อมูลในรูปแผนภูมิอย่างง่าย
6.มีทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่จำเป็น

เพลง


สวัสดีคุณครู
สวัสดี คุณครู ที่รัก      หนูจะ ตั้งใจ อ่านเขียน
ยามเช้า เรามา โรงเรียน           หนูจะ พากเพียร ขยันเรียนเอย

เข้าแถว
เข้าแถว เข้าแถว         อย่าล้ำแนว ยืนเรียงกัน
อย่า มัวแชเชือน       เดินตาม เพื่อนให้ทัน
ระวัง เดินชนกัน     เข้าแถวกัน ว่องไว

เพลง จัดแถว
สองมือเราชูตรง               แล้วเอาลงมาเสมอกับบ่า
ต่อไปย้ายมาข้างหน้า                แล้วเอาลงมาอยู่ในท่ายืนตรง

เพลง ซ้ายขวา 
ยืนให้ตัวตรง              ก้มหัวลงตบมือแผละ
แขนซ้ายอยู่ไหน      หันตัวไปทางนั้นแหละ


การเรียนในวันนี้ความรู้ที่ได้รับ -อาจารย์เข้าสู่บทเรียนโดยการให้นักศึกษาเขียนชื่อตัวเองใส่แผ่นกระดาษที่เตรียมไว้ให้ และเขียนชื่อตัวเอง และให้ไปติดใส่ช่องที่มา และช่องที่ไม่มาสำหรับคนที่ไม่มา เป็นการได้นับจำนวน รู้จักการนับ การเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก การเปรียบเทียบมากกว่าน้อยกว่าเท่าไหร่ให้หามาเติม


ทักษะที่ได้จากการเรียนวันนี้ -จำนวนเต็มกับการลบ การแยกกลุ่ม
-การเปรียบเทียบ
-นับจำนวนเลขกำกับ
-ทักษะการคิด การนับ

การนำไปประยุกต์ใช้ -การสอนคณิตศาสตร์ให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน

-สอนคณิตศาสตร์โดยให้เด็กได้ใช้ประสบการณ์ สิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญ
-สอนคณิตศาสตร์ผ่านเพลง

บรรยากาศในห้องเรียน

-อากาศหนาวเย็น มีไฟดับด้วย

การจัดการเรียนการสอน
-วันนี้อาจารย์นำเพลงมาสอนโดยแฝงด้วยการคิดคณิตศาสตร์อาจารย์ได้สอนวิธีการร้องเพลง อาจารย์ร้องเพลงได้ไพเราะ มีการเตรียมเนื้อหามาอย่างดี

วิเคราะห์ตนเอง

-ยังร้องเพลงเพี้ยน และจับประเด็นเพลงที่โยงเข้าคณิตศาสตร์ยังไม่ได้บางครั้งยัง งงๆอยู่ แต่ตั้งใจมาเรียนมาก

วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559

ตัวอย่างการสอน



               จะทำอย่างไรให้นักเรียนรู้สึกว่าคณิตศาสตร์เป็นเรื่องสนุก และเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเราตลอดเวลา ไม่ใช่แค่โจทย์ที่อยู่บนกระดานเท่านั้น ดังนั้น ครูวันทนีย์ กะตะศิลา จากโรงเรียนวัดน้ำดิบ จังหวัด ลำพูน จึงจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ที่เชื่อมโยงเข้ากับชีวิตจริงของนักเรียน โดยการนำสิ่งของที่อยู่ใกล้ตัวมาเป็นสื่อในการเรียนรู้ เช่น การนำขนมประจำท้องถิ่นมาสอนเรื่องรูปเรขาคณิตหรือการต่อหลอดกาแฟเพื่อให้นักเรียนเข้าใจในเรื่องของมุมที่ทำให้เกิดเป็นรูปเรขาคณิต หรือการให้นักเรียนหาสิ่งของรอบๆ ตัวที่เป็นรูปเรขาคณิตต่างๆ มาส่งคุณครู เพื่อให้นักเรียนเข้าใจในเรื่องเรขาคณิตจากสิ่งของรอบตัวได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้นักเรียนเกิดความสนุก และได้เรียนรู้ว่ารูปเรขาคณิตมีความสัมพันธ์กับชีวิตอย่างไร ทำให้การเรียนคณิตศาสตร์มีคุณค่า และมีความหมายมากยิ่งขึ้น
              สมัยก่อนครูสอนเรื่องเรขาคณิตอย่างไร ::ครูวันทนีย์ กะตะศิลา ท่านเล่าว่า "เรขาคณิตมีรูปสี่เหลี่ยม สี่เหลี่ยมผืนผ้า สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน สี่เหลี่ยมจัตตุรัส เด็กก็ฟังอย่างเดียว เหมือนกับเราบรรยาย ทำให้เด็กไม่มีความสุขในการเรียนเรื่องเรขาคณิต การที่จะทำให้ได้ผลเราก็มาออกแบบใหม่โดยให้เขามีส่วนร่วม ได้มาจับต้องโดยประยุกต์จากชีวิตประจำวัน"

กลยุทธ์ในการสอนเรื่อง เรขาคณิต ของ ครูวันทนีย์ กะตะศิลา

            1. การสร้างแรงจูงใจในการเรียนเรื่องเรขาคณิต โดยการให้เด็กได้เห็นขนมพื้นบ้านประเพณีและวัฒนธรรม เช่น ขนมคนจะเป็นรูปสี่เหลี่ยม ขนมต้มหรือข้าวเหนียวต้มจะเป็นรูปสามเหลี่ยม ที่เอาขนมมาสร้างแรงจูงใจจะเกิดผลดี ว่ามีความตั้งใจในการอยากรู้อยากฟังอยากทำ โดยที่เขาจะยังไม่รู้ว่าสิ่งนี้ครูกำลังสอนเขาแล้วนะ เป็นการนำเข้าสู่บทเรียนเรื่องรูปเรขาคณิต เป็นการสร้างเเรงจูงใจและเขาก็จะได้ชิม
            2. ทบทวนความรู้เดิมว่าแต่ละคนมีพื้นฐานยังไง
            3. เสริมความรู้ใหม่โดยใช้กระบวนการกลุ่ม
            4. เมื่อได้ความรู้แล้วเขาเอาความรู้นั้นไปใช้ยังไง

              เมื่อครบ 4 องค์ประกอบข้างบนแล้วคุณครูให้นักเรียนเอาหลอดมาแทนสิ่งเส้นตรงโดยทำเป็นกลุ่ม เด็กก็จะได้คิดว่าหลอดที่ได้เอามาต่อกันอย่างไร และให้เด็กบอกว่าเป็นรูปอะไร เพื่อนำเสนอ เด็กก็จะต่อเป็นสามเหลี่ยมสี่เหลี่ยม โดยมีคุณครูคอยถาม ว่ากี่เหลี่ยม มีกี่ด้าน กี่มุม  เด็กก็จะได้ออกมานำเสนอหน้าห้องเรียน
              ต่อมาก็ให้เด็กไปหาของซึ่งครูได้ออกแบบใส่กะละมังเพื่อให้เด็กได้ไปค้นหาว่าสิ่งของเหล่านั้นมีส่วนประกอบของรูปเรขาคณิตอะไรบ้าง เพื่อเสริมว่ามีอะไรเพิ่มขึ้นมา เช่น วงกลม วงรี หรืออื่นๆที่คุณครูเตรียมไว้นอกจากที่เขาต่อมาได้
              สุดท้ายเป็นการนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน คุณครูจะให้เด็กไปหาสิ่งของทีอยู่รอบตัวว่ามีสิ่งไหนที่เป็นรูปเรขาคณิตอยู่ เพื่อให้เด็กได้เกิดความรู้ที่ว่าสิ่งเหล่านี้ได้เอาไปใช้จริงๆนะ มีจริงๆนะ

สรุป
        ในการสอนเรื่องรูปเรขาคณิตไม่จำเป็นต้องไปหาสื่อที่แพงหรืออะไรให้เหนื่อย มันเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ๆตัวเรา เราสามารถหยิบจับรอบๆตัวเรามาเป็นสื่อในการเรียนการสอนได้ ให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการเล่น และได้ต่อยอดว่าสิ่งเหล่านี้ให้เด็กเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

ที่มา :: โทรทัศน์ครู

การจัดการเรียนรู้แบบเด็กนักวิจัยที่มีผลต่อทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย

ปริญญานิพนธ์ ของ ศิริลักษณ์ วุฒิสรรพ์

เสนอต่อบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย ตุลาคม 2551


                    การวิจัยในครั้งนี้ ผู้วิจัยได้นำรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเด็กนักวิจัย มาใช้ในการจัด
ประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัยเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้พัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์
ผลการวิจัย ในครั้งนี้จะเป็นแนวทางให้กับครูและผู้เกี่ยวข้อง นำไปใช้ในการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มี
ความพร้อมทางด้านทักษะคณิตศาสตร์ในระดับปฐมวัยและพัฒนาทักษะที่เป็นพื้นฐานในการเรียน
วิชาคณิตศาสตร์ในระดับชั้นที่สูงขึ้นต่อไป และสามารถนำไปปรับใช้ เชื่อมโยงกับทักษะอื่นๆ ต่อไป

ความมุ่งหมายของการวิจัย

1. เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยรวมของเด็กปฐมวัย
ก่อนและหลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบเด็กนักวิจัย
2. เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์รายด้านของเด็กปฐมวัย
ก่อนและหลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบเด็กนักวิจัย

ขอบเขตของการวิจัย
ประชากรที่ใช้ในการวิจัย
            ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชาย – หญิงอายุ 5 – 6 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่
ในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนบ้านสามแยก สังกัดสำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษากำแพงเพชร เขต 2
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย
             กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชาย – หญิงอายุ 5 – 6 ปีที่กำลังศึกษา
อยู่ในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนบ้านสามแยกสังกัดสำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษากำแพงเพชร เขต 2 จำนวน 15 คน จากห้องที่ผู้วิจัยเป็นครูประจำชั้น

วิธีดำเนินการทดลอง
การวิจัยครั้งนี้ดำเนินการทดลองในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551 เป็นเวลา 8 สัปดาห์
สัปดาห์ละ 4 วัน วันละ 40 - 50 นาที รวมระยะเวลาทดลองทั้งสิ้น 32 ครั้ง ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1. ขอความร่วมมือกับผู้บริหารโรงเรียนในการทำวิจัย
2. แจ้งให้ผู้ปกครองรับทราบเกี่ยวกับวิธีการจัดการเรียนรู้แบบเด็กนักวิจัย เพื่อขอความ
ร่วมมือในการเป็นวิทยากร และสนับสนุนการจัดการเรียนรู้แบบเด็กนักวิจัย
3. สร้างความคุ้นเคยกับเด็กกลุ่มตัวอย่าง และจัดเตรียมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมต่อ
การจัดการเรียนรู้แบบเด็กนักวิจัยเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์
4. ทำการทดสอบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กกลุ่มตัวอย่างก่อนการทดลอง
(Pretest) จำนวน 15 คน ด้วยแบบประเมินเชิงปฏิบัติทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ จำนวน 4 ชุด
โดยทำการทดสอบวันละ 1 ชุด เป็นเวลา 4 วัน
5. ผู้วิจัยดำเนินการทดลองโดยจัดการเรียนรู้แบบเด็กนักวิจัยกับกลุ่มตัวอย่างใช้เวลา
8 สัปดาห์ๆ ละ 4 วันๆ ละ 40 - 50 นาที ช่วงกิจกรรมเสริมประสบการณ์เริ่มเวลา 09.00 – 09.50 น.
จนสิ้นสุดการทดลองรวมทั้งสิ้น 32 ครั้ง ในการจัดการเรียนรู้แบบเด็กนักวิจัยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน คือ
ขั้นทบทวนความรู้และเลือกหัวข้อเนื้อหาที่สนใจ ขั้นเด็กค้นคว้าวิจัยหาความรู้ และขั้นการประเมินผล
6. กำหนดการทดลองโดยกำหนดหัวข้อเรื่องในการเรียนรู้ตามความต้องการของเด็กซึ่ง
อยู่ในขั้นทบทวนความรู้และเลือกหัวข้อเนื้อหาที่สนใจของการจัดการเรียนรู้แบบเด็กนักวิจัย

อภิปรายผล
              การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์
โดยรวมและรายด้านของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังได้รับการจัดการเรียนรู้แบบเด็กนักวิจัยปรากฏผล
ดังนี้ เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบเด็กนักวิจัยมีทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยรวม
และรายด้านทุกด้านสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .000 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานของการ
วิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเด็กนักวิจัยสามารถส่งเสริมทักษะพื้นฐาน
ทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยให้สูงขึ้นได้ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ทั้งนี้สามารถอภิปราย
ผลได้ว่า
           การจัดการเรียนรู้แบบเด็กนักวิจัย เป็นการจัดการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้เด็กได้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ได้ตามความสนใจของตนเองโดยในขั้นทบทวนความรู้และเลือกหัวข้อเนื้อหาที่สนใจเด็กได้เล่าประสบการณ์เดิม แสดงความคิดเห็นและกำหนดหัวเรื่องในการเรียนรู้อย่างอิสระ ในขั้นค้นคว้าหาความรู้เด็กได้เลือกร่วมกิจกรรมการค้นคว้าอย่างอิสระ ศึกษาเรียนรู้จากสื่อที่เป็นของจริง ได้มีโอกาส จับ สัมผัส มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบข้าง ค้นคว้าหนังสือในห้องสมุด ค้นคว้าข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต การซักถามวิทยากร ผู้ปกครองและครู ขั้นการประเมินได้คิดกิจกรรมผลงานตามความถนัดและความสนใจ ซึ่งทุกขั้นของการจัดการเรียนรู้แบบเด็กนักวิจัยเด็กได้ใช้ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ขณะทำการเรียนรู้อยู่ตลอดการเข้าร่วมกิจกรรม โดยครูมีส่วนสำคัญในการจัดสภาพแวดล้อม กระตุ้นให้เด็กคิด แสวงหาคำตอบ และจัดเตรียมสื่อการสอนวัสดุ อุปกรณ์หลากหลาย มีจำนวนที่เพียงพอสำหรับเด็กในการศึกษาหาความรู้ ผลให้เด็กปฐมวัยมีทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ที่สูงขึ้น

ที่มา การจัดการเรียนรู้แบบเด็กนักวิจัยที่มีผลต่อทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย


บทความ
"สอนลูกเรื่องเรขาคณิต"
สอนลูกเรื่องเรขาคณิต
                      การสอนลูกเรื่องเรขาคณิต (Teaching children about Geometry) หมายถึง การจัดกิจกรรมให้เด็กมีความรู้ความเข้าใจคณิตศาสตร์ที่ว่าด้วยความเกี่ยวพันระหว่างเส้น มุม และการวัดเนื้อที่ และรู้จักรูปเรขาคณิตซึ่งหมายถึงรูปต่างๆ ทางเรขาคณิต ได้แก่รูปสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ห้าเหลี่ยม หกเหลี่ยม แปดเหลี่ยม วงกลม เป็นต้น รวมถึงรูปทรงเรขาคณิต ซึ่งหมายถึง รูปที่มีส่วนเป็นพื้นผิว ส่วนสูง และส่วนลึก หรือหนา สิ่งต่างๆรอบตัวเราที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นมานั้น ล้วนนำความรู้และทักษะทางคณิตศาสตร์เรื่องรูปเรขาคณิต และรูปทรงเรขาคณิตมาใช้ เช่น ที่อยู่อาศัย โต๊ะ กล่อง หีบใส่ของ กระเป๋า ตู้ หนังสือ ถาด จาน ชาม กรอบรูป ลูกบอล กรวย ถัง และอื่นๆอีกมากมาย ตามธรรมชาติคนเราจะเคลื่อนไหวไปมา จึงได้สัมผัสสิ่งต่างๆรอบตัว และจะค่อยๆ ซึมซับสิ่งเหล่านั้น สำหรับเด็กปฐมวัยแล้วการเรียนรู้ของเขาขณะเคลื่อนไหวร่างกาย คือการที่เด็กได้เล่น ดังนั้นเด็กปฐมวัยจึงสามารถเรียนรู้เรื่องรูปทรงเรขาคณิต และรูปเรขาคณิตได้ แม้ในวัยนี้เด็กบางคนอาจจะเรียกชื่อ หรือขีดเขียน รูปเรขาคณิต รูปทรงเรขาคณิตไม่ได้ก็ตาม แต่เด็กสามารถสังเกตได้ การเรียนรู้ก็จะเกิดได้แน่นอน ดังที่สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท) ได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้จึงได้กำหนดสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์(ขอบข่ายเนื้อหาทางคณิตศาสตร์ที่เด็กปฐมวัยควรเรียนรู้) ในสาระที่ 3 เรื่องเรขาคณิต และให้มีการจัดการเรียนการสอน เป็นไปตามมาตรฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์ปฐมวัย ข้อ 3.2 คือให้รู้จักจำแนกรูปเรขาคณิตและเข้าใจการเปลี่ยนแปลงรูปเรขาคณิตที่เกิดจากการกระทำ ซึ่งเป็นบทบาทของพ่อแม่ และครูควรร่วมมือกันส่งเสริมการเรียนรู้ให้แก่เด็ก